Event
ยูȨโกจัึϸานสวȨสาธารณะเกี่ยวกับบทบาทྺองแพลทฟอร์มดิจิทัลในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างถ้วนหน้าในประเทศไทย

เพื่อรำลึกถึงวันสากลแห่งการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (IDUAI) 2023 ยูȨโก ร่วมกับ &Բ;และ&Բ; จัดกิจกรรมเสวนาสาธารณะเพื่อวิเคราะห์การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร (ATI) ในประเทศไทย โดยการริเริ่มครั้งนี้จะเป็นเวทีให้มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกภาคส่วน รวมถึงผู้คุ้มครองสิทธิและผู้ทรงสิทธิ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดและพิจารณาว่าข้อมูลบนพื้นที่ออนไลน์มีอิทธิพลต่อความสามารถในการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยของพลเมืองไทยอย่างไร
การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นเงื่อนไขจำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างถ้วนหน้า ด้วยเหตุนี้ เมื่อรัฐบาลปิดหรือจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตย่อมส่งผลอย่างรุนแรงต่อการใช้สิทธิมนุษยชนและการมีส่วนร่วมตามระบอบประชาธิปไตย
การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและสิทธิมȨษยชนในประเทศไทย
การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งรวมถึงการเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นตัวขับเคลื่อนสิทธิมนุษยชนในวงกว้างไม่เพียงแต่ในมุมของเสรีภาพในการแสดงออกเท่านั้น เมื่อกระบวนการพัฒนาให้เป็นดิจิทัลมีความก้าวหน้าขึ้น การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ตยังมีความสำคัญต่อการบรรลุสิทธิด้านการศึกษา ด้านการรวมกลุ่มและการชุมนุม ด้านการมีส่วนร่วมทางสังคมวัฒนธรรมและการเมือง ด้านสุขภาพ ด้านมาตรฐานการครองชีพที่เพียงพอ รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดความกลมเกลียวทางสังคม และการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองอย่างถ้วนหน้า
เนื่องจากการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและความแข็งแกร่งของระบอบประชาธิปไตยเกื้อกูลกันและกัน จึงหมายความว่า การจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรือการไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาธารณะบนพื้นที่ออนไลน์ย่อมเป็นการบ่อนทำลายความสามารถในการใช้สิทธิตามระบอบประชาธิปไตยของปัจเจกบุคคล และยับยั้งไม่ให้สถาบันต่าง ๆ ทำหน้าที่ของตน ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในบริบทของการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ประเทศไทยมีอัตราการเข้าถึงอิȨทอร์Ȩตอยู่ที่&Բ;85.3%[1] โดยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 61.2 ล้านคน ณ เดือนมกราคม 2566 ซึ่งพัฒนาโดย Economist Impact จัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 22 จาก 100 ประเทศทั่วโลกในแง่ของความพร้อมใช้งานของอินเทอร์เน็ต โดยพิจารณาจากคุณภาพและความครอบคลุมของโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ซึ่งจำเป็นสำหรับการเข้าถึงและระดับของการใช้อินเทอร์เน็ต[2] อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะมีอัตราการเข้าถึงและความพร้อมใช้งานของอินเทอร์เน็ตในระดับสูง ทว่า การเซ็นเซอร์ออนไลน์ก็ยังมีอยู่อย่างแพร่หลาย เจ้าหน้าที่ในประเทศไทยมีอำนาจอย่างกว้างขวางในการจำกัดการแสดงออกทางออนไลน์ กำหนดการเซ็นเซอร์ และบังคับใช้การสอดแนม ประเทศไทยได้รับการจัดอยู่ในหมวด ‘ไม่เสรี’ ในของ Freedom House เกี่ยวกับเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต ตลอดจนสิทธิทางการเมืองและเสรีภาพของพลเมืองในปี 2023
ท่ามกลางพื้นที่พลเมืองและพื้นที่สาธารณะสำหรับการสนทนาและการแสดงออกทางการเมืองที่ลดลงเรื่อย ๆ ประชาชนในประเทศไทยหันมาพึ่งสื่อสังคมออนไลน์ เครื่องหมายแฮชแท็ก (#) กลายเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อการแสดงออกทางการเมืองทุกประเภทแม้กระทั่งในประเด็นต้องห้าม เช่น ประเด็นเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ เมื่อใดก็ตามที่ผู้มีอำนาจพยายามจำกัดช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ ชาวเน็ตในไทยก็จะแสวงหาแพลตฟอร์มใหม่เพื่อใช้สำหรับการแสดงออกทางการเมือง[3]
ท่ามกลางบริบทนี้ การเลือกตั้งทั่วไปที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมานับเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีตั้งแต่เกิดรัฐประหารในปี 2557 ที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยกลับมาได้รับชัยชนะการเลือกตั้งและได้พยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลก่อนที่จะโดนสกัดกั้นจากเงื่อนไขของการโหวตในรัฐสภา ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนไทยเกือบ 40 ล้านคน หรือ 75% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียง ซึ่งถือเป็นอัตราการใช้สิทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีการสังเกตการณ์และติดตามการเลือกตั้งและการนับคะแนนครั้งนี้อย่างเข้มข้นจากองค์กรภาคประชาสังคมทั้งในและต่างประเทศ มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารผ่านโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตเพื่อรายงานผลนับคะแนนในหน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์[4]
[1] พัฒนาโดยเอเจนซีโฆษณาแบบสร้างสรรค์ We Are Social&Բ;และ&Բ;Meltwater
[2]
[3]
[4] อ่านเพิ่มได้ที่: ; ;
ยูȨโกและองค์กรเจ้าภาพร่วมสำรวจผลกระทบของแพลตฟอร์มออȨลน์ใȨารข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ผู้คุ้มครองสิทธิจะได้รับเชิญให้นำเสนอเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลสาธารณะทางออนไลน์ผ่านกรอบกฎหมาย รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แบบเปิด หรือนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ในขณะที่ฝ่ายผู้ทรงสิทธิจะแบ่งปันประสบการณ์จากมุมมองของผู้ใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่า ข้อมูลข่าวสารสาธารณะออนไลน์ที่เข้าถึงได้จะช่วยในเรื่องพื้นที่ประชาสังคมและก่อให้เกิดภาระความรับผิดชอบของหน่วยงานสาธารณะและการมีส่วนร่วมของประชาชนได้อย่างไร
กิจกรรมนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของทั้งผู้คุ้มครองสิทธิและผู้ทรงสิทธิในการติดตามและรณรงค์เรื่องความคืบหน้าในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าประสงค์การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) เป้าประสงค์ที่ 16.10
กลุ่มเป้าหมาย
- หน่วยงานกำกับดูแลตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ของประเทศไทยและสถาบันของรัฐที่กำกับดูแลและให้ข้อมูลสาธารณะทางออนไลน์ เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร (สนข.) และ กรุงเทพมหานคร (กทม.)
- Ȩกศึกษาและนักวิชาการ
- Think tanks, องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs), องค์กรระหว่างประเทศ
- ผู้มีส่วȨึϹส่วนสียที่กี่ยวྺ้อง
- Ȩกྺ่าวและองค์กรสื่อ
กำหนึϸารบื้องต้น

วัȨี่
28 กันยายน 2566
วลา
14.00 – 17.00 น. (วลากรุงเทพฯ UTC+7)
สถานที่จัดงาน
ห้องประชุมทีดีอาร์ไอ ถ่ายทอดสดทางโซเชียลมีเดีย
ภาษา
ภาษาไทยและอังกฤษ (โดยมีบริการล่ามพูดพร้อม)
การลงทะเบียนสำหรับผู้เข้าร่วมทางออȨลน์
ท่านจะได้รับรายละเอียดกี่ยวกับการเข้าร่วมงานสวȨหลังจากที่ได้ลงทะเบียนแล้ว
กำหนึϸารงาȨสวȨ
14.10-14.15
กล่าวเปิด&Բ;
- โจ ฮิโรนากะ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและสารสนเทศ ยูȨโก กรุงเทพฯ
- รศ.ดร.ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
14.15-14.30
Keynote: การดำเนินการเพื่อการเข้าถึงการใช้ข้อมูลและการถอดบทเรียน
- โจ ฮิโรนากะ ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารและสารสนเทศ ยูȨโก กรุงเทพฯ
14.30-15.15
การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านอินเทอร์เน็ต – ผู้คุ้มครองสิทธิในประเทศไทยกับการอำนวยความสะึϸกเพื่อการเข้าถึงข้อมูลออȨลน์ྺองสาธารณชน
- พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ กับการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ Ȩสนอโึϸ ภาวนา ฤกษ์หร่าย สำȨกงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารྺองราชการ
- ธรรมาภิบาลและความโปร่งใสผ่านการเข้าถึงข้อมูลแบบเปิด Ȩสนอโึϸ ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- ผู้ดำเนินรายการ: รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสื่อไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
15.15-16.30
การอภิปราย:&Բ;การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากมุมมองของผู้ทรงสิทธิ
- ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค ผู้อำนวยการศูนย์ความรู้เพื่อความร่วมมือในการต่อต้านคอรัปชันและส่งเสริมธรรมาภิบาลในระดับภูมิภาค (KRAC) และผู้ร่วมก่อตั้ง HAND Social Enterprise
- ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ก่อตั้ง The Reporters / ผู้สื่อข่าว ข่าว 3 มิติ
- อัมรินทร์ สายจันทร์ นักกฎหมายมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม
- วรภพ วิริยะโรจน์ สมาชิกบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล
- ผู้ดำเนินรายการ: รศ.พิจิตรา ศุภสวัสดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสื่อไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
16.30-16.50
กล่าวปิด
- ยูȨโก
For further information
แผนกสื่อสารและสารสนเทศ ยูȨโก กรุงเทพฯ
อีมล: ci.bgk(at)unesco.org
#AccessToInformation